วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
เที่ยวป่าปลอดภัย ในหน้าฝน
ถึงฝนจะตกแดดจะออก สำหรับคนชอบเที่ยว เมื่อหัวใจมันร่ำร้องให้ออกเดินทางซะแล้ว คงไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้ แต่จะให้ปลอดภัยก่อนเดินทางต้องตรวจสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาที่ www.tmd.go.th แล้วจัดเตรียมสัมภาระต่างๆ ให้เหมาะสมกับทริปที่จะไป ที่เหลือคือสิ่งที่ควรทำ เช่น เที่ยวน้ำตก เดินป่า ล่องแก่ง
ก่อนลงเล่นน้ำสำรวจทางขึ้นลงไว้ด้วยเผื่อฉุกเฉิน เกิดน้ำป่าไหลหลากจะได้หนีขึ้นที่สูงได้ทัน และระหว่างเล่นน้ำโปรดสังเกตสัญญาณของน้ำป่า คือระดับน้ำที่เพิ่มขึ้น แรงขึ้น สีของน้ำเปลี่ยนเป็นสีแดงขุ่น หรือน้ำสีขุ่นขึ้น และฟังเสียงที่ดังผิดปกติของสายน้ำ
ปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานที่อย่างเคร่งครัดเช่น ไม่ลงเล่นน้ำในเขตหวงห้าม ในบริเวณวังน้ำวน หรือกระแสน้ำไหลเชี่ยว ไม่ควรปีนป่ายไปตามริมหน้าผาน้ำตก หรือบนพื้นที่อันตราย อาจลื่นพลัดตกลงมาได้
หากจะล่องแก่ง ต้องมีผู้เชี่ยวชาญดูแล และคุณต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ อีกทั้งต้องใส่อุปกรณ์ชูชีพเสมอ
การเดินป่าต้องระวังสัตว์มีพิษต่างๆหากตั้งแคมป์ในป่าไม่ควรอยู่ใกล้ลำธารเกินไป เพราะอาจมีน้ำป่าไหล ควรเลือกทำเลตั้งแคมป์ที่ปลอดภัยจากระดับน้ำ และเลี่ยงบริเวณที่เคยเป็นร่องน้ำ
การเดินป่าเที่ยวน้ำตกควรใส่รองเท้าเดินป่าที่กระชับ พื้นรองเท้าควรเป็นยางชนิดอ่อน และมีดอกยางซึ่งจะเกาะพื้นหินและพื้นดินได้ดีกว่ารองเท้าพื้นแข็ง โดยเฉพาะหน้าฝนที่พื้นที่ป่าจะลื่นมากกว่าปกติ
ไม่ควรอยู่ในชุดเสื้อผ้าที่เปียก หรืออยู่ในน้ำเย็นเป็นเวลานาน อาจจะเป็นตะคริว จมน้ำ หรือเป็นไข้ได้
วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
รู้รักษารถ...ในยามฝนพร่ำ
ย่างเข้าหน้าฝนคนมีรถคงกลุ้มใจกับปัญหามากมายที่อาจตามมา ฉบับนี้ Lisa มีข้อควรรู้ ให้สาวๆ นำไปใช้ดูแลรถในหน้าฝน มาฝากกันค่ะ
1. ตรวจเช็คความพร้อม ของที่ปัดน้ำฝนและยางรีดน้ำว่ายังใช้การได้คืออยู่หรือไม่
2. สำรวจระบบไฟ ทั้งไฟหน้า-ท้าย ไฟเลี้ยว ไฟกะพริบ ไฟถอยหลัง เวลาฝนตกหนักไฟเหล่านี้จะช่วยเราได้
3. หมั่นเติมน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับมาตรฐาน หากฝนตกหนักช่วงกลางคืนรถจะใช้กระแสไฟฟ้ามาก แบตเตอรี่อาจจะอ่อนลงได้
4. เติมลมให้พอดีและตรวจยางทั้ง 4 เส้นให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้ หากพบว่าดอกยางสึกมาก ควรเปลี่ยนใหม่ เวลาฝนตกถนนจะลื่นมาก หากยางไม่ดีรถจะไม่ยึดเกาะถนน เตรียมยางอะไหล่ไว้เผื่อฉุกเฉินด้วย
5 . ตรวจสอบระบบเบรกด้วยการเหยียบย้ำๆ ดูว่าเบรกสึกหรือตื้นไปมั้ย และให้เหยียบย้ำๆ มากขึ้นเมื่อขับพ้นสภาพถนนเปียก เป็นการไล่น้ำออกจากเบรกช่วยให้เกิดประสิทธิภาพดีในการใช้งานต่อไป
6. ระวังเครื่องยนต์ดับกะทันหันหากขับเร็วเกินไปในขณะที่ฝนตก เพราะหากขับเร็วเครื่องยนต์จะร้อนจัดเมื่อปะทะกับความเย็นภายนอกเครื่องจะ น๊อก มีผลทำให้กระแสไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งเป็นเหตุให้เครื่องยนต์ดับได้
7. ถ้าเครื่องยนต์ดับให้เปิดฝากกระโปรง แล้วใช้ผ้าแห้งซับเครื่องยนต์ ควรมีสเปรย์ฉีดไล่ความชื้นติดรถไว้ด้วย
8. หากเกิดฝ้าบริเวณกระจกหน้า ให้ใช้ผ้าแห้งเช็ดเป็นระยะๆ เพื่อทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่
9. หากหลีกเลี่ยงเส้นทางที่ถนนมีน้ำท่วมขังไม่ได้ให้ปิดเครื่องปรับอากาศชั่วคราว เพราะน้ำอาจจะเข้าไปที่พัดลมทำให้เสียได้ และพัดลมหม้อน้ำจะตีเอาน้ำที่เข้ารถเป็นละอองเข้าในห้องเครื่องเป็นสาเหตุให้รถดับได้
10. ถ้าไม่รีบเกินไปนัก ควรหยุดพักรถข้างทางพร้อมเปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อความปลอดภัย
วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ขับรถหน้าฝนอย่างปลอดภัย
ฝนตก ถนนลื่น และความประมาท คือสาเหตุหลักของอุบัติเหตุบนท้องถนน ยิ่งถ้าวันไหนฝนตกหนักอย่างไม่ลืมหูลืมตาแล้วล่ะก็ ร้อยทั้งร้อยเกิดอุบัติเหตุชัวร์ หากไม่อยากเสียคนที่เรารักหรือคนที่รักเรา รวมทั้งทรัพย์สินที่จะต้องจ่ายให้กับคู่กรณี ลองทำตามคำแนะนำนี้ดู
ไม่ควรขับรถชิดคันหน้ามากจนเกินไป ทิ้งระยะห่างประมาณ 10-15 เมตร เนื่องจากอาจมีการเบรกรถกะทันหัน หรือไม่ก็อาจเป็นละอองน้ำที่ดีดจากรถคันหน้าทำให้ทัศนวิสัยของผู้ที่ขับตามา ไม่ชัดเจน
ชะลอความเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากการขับรถด้วยความเร็วสูง จะทำให้แรงดันของน้ำระหว่างยางกับถนนเพิ่มขึ้น เมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะทำให้เกิดการแล่นบนผิวน้ำ โดยน้ำเข้าไปแทรกระหว่างยางกับผิวถนน อาจทำให้รถเกิดการแฉลบได้
ควรเปิดไฟคู่หน้าไว้ตลอดเวลา เนื่องจากเม็ดฝนที่เกาะกระจกทำให้ทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ไม่ชัดเจน การเปิดไฟจึงช่วยได้ในระดับหนึ่ง
หลีกเลี่ยงการเปิดไฟฉุกเฉินเมื่อฝนตกหนัก ให้เปิดเฉพาะไฟต่ำ เนื่องจากเป็นการรบกวนสายตาผู้ขับขี่คันอื่น
ควรตรวจสอบยางรถยนต์เพื่อความปลอดภัย ยางรถยนต์มีผลอย่างมาก หากสูบยางน้อยไปอาจทำให้รถยนต์แฉลบได้ง่าย
ในหน้าฝนควรเพิ่มแรงดันลมให้มากขึ้นจาก เดิมอีก 2-3 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว เพื่อให้หน้ายางแข็งและมีกำลังในการรีดน้ำดอกยางและขนาดของหน้ายางยังมีผล ต่อประสิทธิภาพการยึดเกาะในขณะขับรถยนต์ หากใช้ยางดอกละเอียดจะทำให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น
หากฝนตกหนัก สิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่งคือ
1) เมื่อลุยน้ำระดับสูงควรปิดแอร์เพื่อไม่ให้พัดลมไฟฟ้าทำงาน เพราะจะเป็นการตีน้ำให้กระจายเต็มห้องเครื่อง
2) หลังจากขับรถผ่านพ้นจากผิวจราจรที่มีน้ำท่วมแล้ว ควรเหยียบเบรกเพื่อไล่น้ำออกจากเบรก 2-3 ครั้ง การทำงานของระบบเบรกจะกลับสู่สภาพเดิม
3) การจอดรถไม่ควรเข้าเกียร์ค้างไว้ หรือใส่เบรกมือเหมือนยามปกติ เพราะอาจทำให้เกียร์ค้าง หรือเบรกติดได้ ใน กรณีที่จอดรถค้างคืนแล้วตอนเช้าเอารถออกมีเสียงครืดคราดจากเบรกไม่ต้องตกใจ เป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากเบรกติด ซึ่งจะมีเสียงเฉพาะตอนขับรถครั้งแรกเพียงครั้งเดียว ยกเว้นถ้าดังทุกครั้งที่เหยียบเบรกควรไปปรึกษาช่าง
ขับขี่รถด้วยความไม่ประมาท คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งที่ขับรถ จะช่วยลดอุบัติเหตุ